วันพฤหัสบดีที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

บทที่1 ธุรกิจขนาดย่อม

ธุรกิจขนาดย่อม
          ธุรกิจขนาดย่อม (Small and Medium Interprises : SMEs) หมายถึง ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางที่เกิดจากการผลิตสินค้าหรือบริการที่มาจากทักษะที่หลากหลาย มีกระบวนการผลิตที่ยืดหยุ่น สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนในชุมชนนั้น ๆ โดยคำนึงถึงความต้องการของตลาดโลก ขั้นตอนการผลิตจะใช้วัตถุดิบในประเทศไทยเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งผลผลิตของสินค้าหรือบริการนั้นต้องมีคุณภาพตามมาตรฐานสากล ใช้เงินทุนในการประกอบการไม่สูง อยู่ในระดับที่สถาบันการเงินต่าง ๆ สามารถรองรับได้ ปัจจุบันทางภาครัฐได้ให้ความสนใจธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางนี้มาก โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมของกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นหน่วยงานที่ส่งเสริมและสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางอย่างชัดเจน
ลักษณะที่ดีของธุรกิจขนาดย่อม
          1. สามารถทำรายได้จากดอลลาร์โซนได้ หมายถึง เป็นธุรกิจที่สามารถทำรายได้เป็นเงินตราต่างประเทศได้
          2. เป็นธุรกิจที่พึ่งตนเองได้ หมายถึง เป็นธุรกิจที่มีตลาดขายสินค้าเป็นของตนเอง มีความหลากหลายโดยไม่ต้องอาศัยการสั่งซื้อจากโรงงานขนาดใหญ่
          3. มีความว่องไวในการปรับตัว
          4. ใช้เงินทุนในการประกอบการไม่สูง
          5. เป็นธุรกิจที่ใช้ทักษะในการผลิต
          6. ใช้วัตถุดิบภายในประเทศ หมายถึงวัตถุที่ใช้ผลิตสินค้าส่วนใหญ่เป็นวัตถุดิบภายในประเทศ
          7. ผลผลิตมีคุณภาพ หมายถึง การผลิตสินค้าต้องเน้นที่คุณภาพและมีคุณภาพตามมาตรฐานสากลระดับโลก
          8. เป็นส่วนหนึ่งของชุมชน หมายถึง เป็นธุรกิจที่ตั้งอยู่ในชุมชน มีการบริหารจัดการภายในครอบครัว
ประเภทของธุรกิจขนาดย่อม
          1. ธุรกิจอุตสาหกรรม
          2. ธุรกิจพาณิชยกรรม
          3. ธุรกิจบริการ
           ธุรกิจอุตสาหกรรม หมายถึง ธุรกิจที่มีทั้งขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ โดยมีการนำวัตถุดิบเข้าสู่โรงงาน เพื่อแปรรูปเป็นสินค้าตาที่ต้องการ ถ้าเป็นธุรกิจขนาดใหญ่จะมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการผลิต ต้องอาศัยเงินทุนจำนวนมาก จำนวนการผลิตมีปริมาณสูง ประเภทส่วนประกอบในการผลิตที่เป็นวัตถุดิบ อุปกรณ์ต่าง ๆ จำเป็นต้องมีการสั่งซื้อจากธุรกิจขนาดย่อม ดังนั้นธุรกิจขนาดย่อมที่มีการผลิตที่เป็นอิสระ มีโอกาสผลิตสินค้าให้กับผู้ผลิตรายอื่น ๆ มากที่สุด เช่น โรงงานประกอบรถจักรยานยนต์ต้องอาศัยน็อตจากโรงงานขนาดย่อม โรงงานผลิตตู้เย็นและตู้แช่ ต้องซื้อโครงตู้พลาสติก เป็นต้น
ธุรกิจบริการ  หมายถึง ธุรกิจที่มีการเสนอการบริการที่มีความแตกต่างกันไปแต่ละประเภท เช่น ช่างซ่อมมอเตอร์ไซด์ ช่างซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น ที่มีทั้งภาครัฐและเอกชน และไม่สามารถนำกลับคืนมาได้ ลักษณะของธุรกิจประเภทนี้มักเป็นธุรกิจขนาดเล็ก มีการลงทุนน้อย มีผู้ดำเนินการธุรกิจเพียงคนเดียว เช่น ร้านซ่อมมอเตอร์ไซด์ ร้านซ่อมนาฬิกา เป็นต้น
            ธุรกิจพาณิชยกรรม หมายถึง ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการค้า ไม่ว่าจะเป็นผู้ค้าคนกลางที่อยู่ในช่วงของการจัดจำหน่ายสินค้าไปยังผู้บริโภค หรือผู้ค้าปลีกและส่ง  ที่ขายสินค้าให้กับผู้บริโภค เช่น ห้างสรรพสินค้า ร้านสหกรณ์ ร้านขายของชำ เป็นต้น
ลักษณะโดยทั่วไปของธุรกิจขนาดย่อม
            1. เครื่องจักร เครื่องมือใช้เทคโนโลยีไม่สูง จะใช้เครื่องจักร เครื่องมือในระดับต้นถึงระดับกลาง ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่อง
จักรที่อาจใช้เทคโนโลยีสูง ทำให้ไม่ต้องเสียเงินมากในการจัดซื้อเครื่องมือ
            2. ใช้เงินลงทุนน้อย   สามารถดำเนินการได้กว้าง เพราะประกอบด้วยธุรกิจทางอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม และเกษตรกรรม รวมถึงการบริการต่าง ๆ จะทำให้เกิดการลงทุนน้อยในบางธุรกิจ ซึ่งจะเห็นได้ว่า ธุรกิจขนาดย่อมอาจเป็นการใช้แรงงานของสมาชิกภายในครัวเรือนหรือพี่น้องกัน ซึ่งจะเกิดผลเสียคือ ผู้ประกอบธุรกิจจะต้องทำงานหนักอาจจะทำหน้าที่ผู้บริการจนกระทั่งเป็นแรงงานเอง แต่ก็มีผลดีคือ ผู้เป็นเจ้าของหรือธุรกิจภายในครอบครัว สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วและฉับไว
            3. ผู้เป็นเจ้าของธุรกิจขนาดย่อมสามารถใช้ฝีมือที่มีอยู่ได้อย่างเต็มที่ เพราะว่าผู้ประกอบการได้รับผลประโยชน์ตอบแทนส่วนตัวมาก ทำให้ผู้ประกอบการมีขวัญและกำลังใจในการบริการดี
            4. มีความคล่องตัวในการบริหารธุรกิจ เนื่องจากเป็นธุรกิจขนาดเล็ก ทำให้ไม่ยุ่งยากในการประสานงานและแบ่งหน้าที่
กันดำเนินงานภายในบริษัท ทำให้การดำเนินงานบางอย่างสามารถลัดขั้นตอนได้ ทำให้เกิดความคล่องตัวในการดำเนินงาน ส่งผลให้การบริหารงานภายในองค์การประสบสำเร็จมีกำไรมาก
            5. ตลาดอยู่ทั่วไปในภูมิภาค การประกอบธุรกิจขนาดย่อม สามารถดำเนินการได้ทั่วไปทุก ๆ พื้นที่ในภูมิภาค แล้วแต่ความเหมาะสมและความต้องการของประชากรในชุมชนนั้น เช่น ธุรกิจที่เกี่ยวกับการเกษตรจะอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัดและไกลออกไป

บทบาทของธุรกิจขนาดย่อม
            1. การกระจายการพัฒนาไปสู่ส่วนภูมิภาค ทำได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เศรษฐกิจในภูมิภาคดีขึ้น ประชาชนไม่ต้องเดินทางเข้ามาหางานในกรุงเทพฯ สามารถทำงานอยู่ในพื้นที่ที่มีธุรกิจขนาดย่อมเกิดขึ้น ทำให้ประหยัดรายจ่าย สุขภาพจิตดี ครอบครัวมีความอบอุ่น มลภาวะที่เป็นพิษต่าง ๆ ลดลง
            2. ใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ การใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพนั้น จะก่อให้เกิดกำไรมากขึ้น
            3. ช่วยให้ประชากรในประเทศมีงานทำ การดำเนินธุรกิจย่อมเกิดขึ้นมาก ทำให้ประชากรภายในประเทศมีงานทำ ทำให้ไม่เป็นภาระของรัฐบาล
            4. พัฒนาความสามารถของผู้ประกอบธุรกิจ คือ เป็นการพัฒนาบุคลากรของประเทศชาติให้มีความเข้มแข็งขึ้น เป็นบุคคลที่มีคุณภาพสามารถดำเนินการประกอบธุรกิจและการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะต้องเป็นนักบริหารและนักจัดการที่มีฝีมือดีพอสมควร
            5. ก่อให้เกิดการระดมเงินทุน จะเห็นได้จากการให้การสนับสนุนในการระดมเงินทุนหรือการช่วยเหลือจากสถาบันการเงินต่าง ๆ ดังจะเห็นได้จากธุรกิจบางประเภทจะมีการถือหุ้นของพนักงานหรือประชาชนโดยทั่วไป ตลอดจนรัฐบาลได้ให้การช่วยเหลือด้านต่าง ๆ เช่น ภาษี และการจัดพื้นที่สำหรับจัดตั้งโรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น
องค์ประกอบของธุรกิจขนาดย่อม
            1. คน ถือว่าเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดในการจัดตั้งสถานประกอบการ เพราะในการดำเนินการทุกอย่าง คนต้องเป็นหลักในการที่จะทำให้เกิดธุรกิจและบริการ ต้องอาศัยคนในการควบคุม ต้องอาศัยสมองคนในการดำเนินการโฆษณาและขายสินค้าออก โดยการวางแผนให้ได้กำไรมากที่สุด
            2. เงิน ถือเป็นสิ่งที่ยอมรับกันในทั่วโลกว่ามีความสำคัญ นอกจากจะมีคนเป็นหลักแล้ว เงินเป็นสิ่งสำคัญในการจูงใจให้คนมีความกระตือรือร้น ขยันทำงาน เช่น การให้สวัสดิการต่าง ๆ การให้เงินแก่พนักงานในการทำงานล่วงเวลา เป็นต้น
            3. เครื่องมือเครื่องจักร ในบางครั้งการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพและได้จำนวนมาก ๆ จำเป็นต้องอาศัยเครื่องจักรในการผลิต การผลิตจากฝีมือคนจะได้มาตรฐานที่ไม่เท่ากัน แต่การผลิตโดยเครื่องจักรแล้วจะได้มาตรฐานเท่าเทียมกัน
            4. วัตถุดิบ ถือได้ว่ามีความสำคัญต่อคุณภาพของสินค้า เพราะสินค้าจะมีคุณภาพดีจะต้องได้วัตถุดิบที่ดี
            5. การจัดการ คุณภาพสินค้าเท่า ๆ กันแต่ต้นทุนการผลิตอาจจะแตกต่างกัน เพราะการบริหารจัดการในการเพิ่มผลผลิต หรือใช้หลักการสมัยใหม่มาใช้ในการผลิตแทนระบบการผลิตสิ้นค้าแบบเดิม ๆ
            6. การตลาดถือได้ว่าเป็นส่วนของผู้บริโภคสินค้าที่ผลิตออกมา เทคนิคในการทำการตลาดนั้นมีมากมายหลายวิธี แต่การ
ตลาดจะดำเนินการประสบผลสำเร็จเพียงใดนั้น สิ่งที่สำคัญก็คือ สินค้าต้องมีคุณภาพและเป็นที่ต้องการของประชาชน
            7. ขวัญและกำลังใจ จะต้องหมั่นสังเกตดูพนักงานในโรงงานและบริษัทว่ามีความต้องการสิ่งใด ถ้าความต้องการเน้นเป็นสิ่งที่บริษัทจัดหาได้แล้วทำให้การเพิ่มผลผลิตภายในบริษัทมากขึ้น และเป็นที่ต้องการของพนักงานภายในบริษัทหรือธุรกิจขนาดย่อม ก็ควรที่จะดำเนินการเพื่อให้เกิดขวัญและกำลังใจที่ดีในการปฏิบัติงาน
             คำถามท้ายบท
1. การประกอบธุรกิจขนาดย่อมจะต้องมีการดำเนินงานในเรื่องใด
. การผลิต
ข. การซื้อ
ค. การขาย
ง. ถูกทุกข้อ
2. ข้อใดเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับบุคลากรในองค์การ
ก. จัดอุปกรณ์การทำงานให้ครบ
ข. ฝึกอบรมพนักงาน
ค. จัดสรรงบประมาณให้เพียงพอ
ง. ถูกทุกข้อ
3. ข้อใดไม่ใช่ธุรกิจขนาดย่อม
ก. โรงงานกลั่นน้ำมันบางอ้อ
ข. โรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์รุ่งรัตน์
ค. อู่ซ่อมเฮียจวง
ง. ร้านตัดผมสุดสวย
4. ข้อใดคือความสำคัญของธุรกิจขนาดย่อมที่มีต่อสังคมและธุรกิจของประเทศ
ก. เป็นแหล่งนันทนาการ
ข. เป็นแหล่งพัฒนาคน
ค. เป็นแหล่งพัฒนาความรู้
ง. เป็นแหล่งจ้างงาน
5. ปัญหาใดที่จะเป็นอุปสรรคต่อการบริหารงานของผู้ประกอบธุรกิจขนาดย่อม
ก. ยอดการขายลด
ข. การแข่งขันรุนแรงขึ้น
ค. เลือกทำเลไม่เหมาะสม
ง. ถูกทุกข้อ
6. ข้อใดเป็นความจริง
ก. ธุรกิจขนาดย่อมประสบผลสำเร็จมากกว่าธุรกิจขนาดใหญ่
ข. ธุรกิจขนาดย่อมสามารถพัฒนาตนเองเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ได้
ค. ธุรกิจขนาดย่อมผลิตสินค้าได้ปริมาณน้อย แต่คุณภาพสูง
ง. ธุรกิจขนาดย่อมมีระบบการบริหารงานที่ชัดเจนน่าเชื่อถือ
7. การดำเนินธุรกิจขนาดย่อมมีข้อดีอย่างไร
ก. พนักงานน้อยแต่มีคุณภาพ
ข. ดำเนินการคล่องตัว มีอิสระ
ค. เงินทุนน้อยมีความน่าเชื่อถือ
ง. ผู้ประกอบธุรกิจรับผิดชอบงานทั้งหมด
8. ข้อใดคือธุรกิจขนาดย่อมประเภทบริการ
ก. โรงงานเครื่องปั้นดินเผา
ข. ร้านตัดเสื้อ
ค. ร้านขายของชำ
ง. ถูกทุกข้อ
9. อุปสรรคของการดำเนินธุรกิจขนาดย่อมที่ผู้ประกอบธุรกิจป้องกันได้น้อยที่สุด คือข้อใด
ก. ทำเลไม่เหมาะสม
ข. ยอดการขายลด
ค. ภาวะการแข่งขันรุนแรง
ง. ภัยพิบัติ
10. ข้อใดเป็นข้อจำกัดที่สำคัญที่สุดของการดำเนินงานของธุรกิจขนาดย่อม
ก. คล่องตัวในการบริหารงานมากเกินไป
ข. ครอบครองเฉพาะตลาดในท้องถิ่น
ค. บุคลากรน้อย
ง. เงินทุนน้อย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น